หน้าเว็บ

ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บทที่ ๓ การจัดทำเอกสารสื่อสิ่งพิมพ์ทางธุรกิจ


บทที่ 3
การจัดทำเอกสารสื่อสิ่งพิมพ์ทางธุรกิจ
ความหมายและความสำคัญของสื่อสิ่งพิมพ์
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายคำที่เกี่ยวกับ  สื่อสิ่งพิมพ์  ไว้ดังนี้ สิ่งพิมพ์ หมายถึง สมุด แผ่นกระดาษ หรือวัตถุใดๆที่พิมพ์ขึ้นรวมตลอดทั้งบทเพลง แผนที่ แผนผัง แผนภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี ใบประกาศ แผ่นเสียง หรือสิ่งอื่นใดอันมีลักษณะเช่นเดียวกัน
ดังนั้น สื่อสิ่งพิมพ์ จึงมีความหมายว่า สิ่งที่พิมพ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นกระดาษหรือวัตถุใดๆด้วยวิธีการต่างๆอันเกิดเป็นชิ้นงานที่มีลักษณะเหมือนต้นฉบับขึ้นหลายสำเนาในปริมาณเพื่อเป็นสิ่งที่ทำการติดต่อหรือชักนำให้บุคคลอื่นได้เห็นหรือทราบ ข้อความต่างๆ (หมายเหตุ : ก. = คำกิริยา   น. =  คำนาม)
ประวัติสื่อสิ่งพิมพ์
ประวัติการพิมพ์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ศิลป์ได้ปรากฏบนผนังถ้ำอัลตามิราในสเปนและถ้ำลาสควักซ์ในฝรั่งเศษมีผลงานแกะสลักผนังถ้ำเป็นรูปสัตว์ลายเส้นจึงเป็นหลักฐานในการแกะพิมพ์เป็นครั้งแรงของมนุษย์หลังจากนั้นได้มีบุคคลคิดวิธีการทำกระดาษขึ้นจนมาถึงการพิมพ์ในปัจจุบันนั้นคือ ไซลั่น ซึ่งมีเชื้อสายจีนชาวจีนได้ผลิตทำหมึกแท่นขึ้น ซึ่งเรียกว่า บั๊ก
ประวัติการพิมพ์ในประเทศไทย
ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชกรุงศรีอยุธยาได้เริ่มแต่งและพิมพ์หนังสือคำสอนทางศาสนาคริสต์ขึ้นและหลังจากนั้นหมอบรัดเลย์เข้ามาเมืองไทยและได้เริ่มด้านงานพิมพ์จนสนใจเป็นธุรกิจด้านการพิมพ์ในเมืองไทย พ.ศ. 2382 ได้พิมพ์เอกสารทางราชการเป็นชิ้นแรก คือ หมายประกาศห้ามสูบฝิ่น ซึ้งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้จ้างพิมพ์จำนวน 9,000 ฉบับต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2387 ได้ออกหนังสือฉบับแรกขึ้น คือ บางกอกรีคอร์ดเดอร์เป็นจดหมายเหตุอย่างสั้นออกเดือนละ 2 ฉบับและใน 15 มิ.ย. 2404ได้พิมพ์หนังสือเล่มออกจำหน่ายโดยซื้อลิขสิทธิ์จำหน่ายในเมืองไทยหมอบรัดเลย์ได้ถึงแก่กรรมในเมืองไทยกิจการการพิมพ์ของไทยจึงเริ่มต้นเป็นของไทยหลังจากนั้นใน พ.ศ. 2500 ประเทศไทยจึงนำเครื่องพิมพ์แบบโรตารี ออฟเซท มาใช้เป็นครั้งแรกโรงพิมพ์ไทยวัฒนาพาณิชนำเครื่องหล่อเรียงพิมพ์มาใช้กับตัวพิมพ์ภาษาไทย ธนาคาร แห่งประเทศไทยได้จัดดรงพิมพ์ธนบัตรในเมืองไทยขึ้นใช้เอง
ประเภทของสื่อสิ่งพิมพ์
สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือ
1.             หนังสือสารคดี ตำรา แบบเรียน เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่แสดงเนื้อหาวิชาการในศาสตร์ความรู้ต่างๆเพื่อสื่อให้ผู้อ่านเข้าใจความหมายด้วยความรู้ที่เป็นจริงจึงเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่เน้นความรู้อย่างถูกต้อง
2.             หนังสือบันเทิงคดีเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นโดยใช้เรื่องราวสมมติเพื่อให้ผู้อ่านได้รับความเพลิดเพลิน สนุกสนาน มักมีขนาดเล็กเรียกว่าหนังสือฉบับกระเป๋าหรือ Pocket book
สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร
1.             หนังสือพิมพ์เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นโดยนำเสนอเรื่องราวข่าวสารภาพและความคิดเห็นในลักษณะของแผ่นพิมพ์ แผ่นใหญ่ ที่ใช้วิธีการพับรวมกันซึ้งสื่อสิ่งพิมพ์ชนิดนี้ได้พิมพ์ออกเผยแพร่ทั้งลักษณะหนังสือพิมพ์รายวัน,รายสัปดาห์และรายเดือน
2.             วารสาร,นิตยสารเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นโดยนำเสนอสาระ ข่าว ความ บันเทิง ที่มีรูปแบบการนำเสนอที่โดดเด่นสะดุดตาและสร้างความสนใจให้กับผู้อ่านทั้งนี้การผลิตนั้นมีการกำหนดระยะเวลาการออกเผยแพร่ที่แน่นอนทั้งลักษณะวารสาร นิตยสารรายปักษ์ (15 วัน) รายเดือน
3.             จุลสารเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นแบบไม่มุ่งหวังผลกำไรเป็นแบบให้เปล่าโดยให้ผู้อ่านได้ศึกษาหาความรู้มีกำหนดการออกเผยแพร่เป็นครั้งๆหรือลำดับต่างๆในวาระพิเศษ
4.             สิ่งพิมพ์โฆษณา
4.1      โบร์ชัวร์ เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นสมุดเล่มเล็กๆเย็บติดกันเป็นเล่มจำนวน 8 หน้าเป็นอย่างน้อยมีปกหน้าและปกหลักซึ่งในการแสดงเนื้อหาจะเกี่ยวกับโฆษณาสินค้า
4.2      ใบปลิว เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ใบเดียวที่เน้นการประกาศหรือโฆษณามักมีขนาด A4 เพื่อง่ายในการแจกจ่ายลักษณะการแสดงเนื้อหาเป็นข้อความที่ผู้อ่านอ่านแล้วเข้าใจง่าย
4.3      แผ่นผับ เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตโดยเน้นการนำเสนอเนื้อหาซึ่งเนื้อหาที่นำเสนอนั้นเป็นเนื้อหาที่สรุปใจความสำคัญลักษณะมีการพับเป็นรูปเล่มต่างๆ
4.4      .ใบปิด เป็นสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาโดยใช้ปิดตามสถานที่ต่างๆมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษซึ่งเน้นการนำเสนออย่างโดดเด่นดึงดูดความสนใจ
สิ่งพิมพ์เพื่อการบรรจุภัณฑ์
เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ใช้ในการห่อหุ้มผลิตภัณฑ์การค้าต่างๆแยกเป็นสิ่งพิมพ์หลักได้แก่  สิ่งพิมพ์ที่ใช้ปิดรอบขวด หรือ กระป๋องผลิตภัณฑ์การค้าสิ่งพิมพ์รองได้แก่ สิ่งพิมพ์ที่เป็นกล่องบรรจุหรือลัง
สิ่งพิมพ์มีค่า
เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่เน้นการนำไปใช้เป็นหลักฐานสำคัญต่างๆซึ่งเป็นกำหนดตามกฎหมาย เช่น ธนาณัติ บัตรเครดิต เช็คธนาคาร ตั๋วแลกเงิน หนังสือเดินทาง โฉนด เป็นต้น
สิ่งพิมพ์ลักษณะพิเศษ
เป็นสื่อสิ่งพิมพ์มีการผลิตขึ้นตามลักษณะพิเศษแล้วแต่การใช้งาน ได้แก่ นามบัตร บัตรอวยพร ปฎิทิน บัตรเชิญ ใบส่งของ ใบเสร็จรับเงิน สิ่งพิมพ์บนแก้ว สิ่งพิมพ์บนผ้า เป็นต้น
สิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์
เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้งานในคอมพิวเตอร์หรือระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้แก่ Document Formats  E-book for Palm/PDA เป็นต้น
บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์
สื่อสิ่งพิมพ์มีบทบาท ดังต่อไปนี้
1.             บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ในงานสื่อมวลชนสื่อสิ่งพิมพ์มีความสำคัญในด้านการนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร สาระ และความบันเทิงซึ่งเมื่องานสื่อมวลชนต้องเผยแพร่จึงต้องผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์  วารสาร  นิตยสาร  เป็นต้น
2.             บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ในสถานศึกษาสื่อสิ่งพิมพ์ถูกนำไปใช้ในสถานศึกษาโดยทั่วไปซึ่งทำให้ผู้เรียน ผู้สอนเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น เช่น หนังสือ ตำรา แบบเรียน แบบฝึกหัดสามารถพัฒนาได้เป็นเนื้อหาในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้
3.             บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ในงานด้านธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่ถูกนำไปใช้ในงานธุรกิจประเภทต่างๆ เช่น งานโฆษรา ได้แก่ การผลิตหัวจดหมาย/ซองจดหมาย ใบเสร็จรับเงิน/ส่งของ โฆษณาหน้าเดียว นามบัตร เป็นต้น
4.             บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ในงานธนาคารงานด้านการธนาคารซึ่งรวมถึงงานการเงินและงานที่เกี่ยวกับหลักฐานทางกฎหมายได้นำสื่อสิ่งพิมพ์หลายๆประเภทมาใช้ในการดำเนินงาน เช่น ใบนำฝาก ใบถอน ธนบัตร เช็คธนาคาร ตั๋วแลกเงิน และหนังสือเดินทาง
5.             บทบาทของสื่อสิ่งพิมพ์ในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกสื่อสิ่งพิมพ์ที่ทางห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าปลีกใช้ในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ใบปิดโฆษณาต่างๆใบปลิว แผ่นพับ จุลสาร
การออกแบบและจัดหน้าสื่อสิ่งพิมพ์
หลักการสร้างเอกสารสิ่งพิมพ์ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1.             การระบุค่าต่างๆของโปรแกรม ได้แก่ ค่ากำหนดแถบไม้บรรทัดว่าเป็นนิ้ว เซนติเมตรหรือมิลลิเมตรและยังมีการกำหนดระยะกระโดดหรือที่เรียกว่า Tab ซึ้งควรปรับแต่งค่าเหล่านี้ก่อนการพิมพ์ให้เหมาะกับความถนัดและเหมาะกับงานพิมพ์นั้นจะช่วยให้การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์เกิดความสะดวกรวดเร็วและตรงกับความต้องการ
2.             การกำหนดค่าของกระดาษ กระดาษแบ่งตามผิวได้ 2 ประเภทคือ
2.1        กระดาษไม่เคลือบผิวเป็นกระดาษที่ไม่มีการเคลือบของผิวกระดาษด้วยสารใดๆจะมีลักษณะเป็นผิวขรุขระ
2.2        การเคลือบผิว เป็นกระดาษที่มีการเคลือบผิวด้วยสารเคมีที่ผิวกระดาษเพื่อให้เกิดความมันและเรียบซึ่งมาตรฐานสิ่งพิมพ์ขององค์กรระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐาน ISO แบ่งมาตรฐานกระดาษไว้ 3 ชุด ชุด A และ B สำหรับงานพิมพ์ทั่วไปและชุด C สำหรับงานซองจดหมายซึ่งกระดาษจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าสัดส่วนความกว้างและความยาวอยู่ที่  1: 1.414 โดยประมาณ
3.             การตั้งค่าเครื่องพิมพ์ ได้แก่ การตั้งระยะกั้นหน้า การตั้งระยะกั้นหลัง การตั้งระยะขอบบน หรือการตั้งระยะขอบล่างเครื่องพิมพ์แต่ละประเภทแตกต่างกันหากไม่ได้กำหนดค่าเครื่องพิมพ์งานพิมพ์ที่ได้อาจเสียระยะในการจัดพิมพ์ไว้ในเอกสาร
การจัดทำนามบัตร
1.             เข้าสู้โปรแกรมMicrosoft Word 2003 โดยการคลิกที่ Start>Microsoft Word 2003
2.             คลิกเลือกคำสั่ง  มุมมอง>บานหน้าต่างงาน หรือกด Ctrl+F1
3.             คลิกที่สร้างเอกสารใหม่
4.             เลือกคำสั่งบนคอมพิวเตอร์ของฉัน
5.             คลิกเลือก Mailing Lable Wizard
6.             คลิก  ตกลง
7.             คลิกเลือก  สร้างป้ายผนึกเดียวกันหรือป้ายผนึกแบบเดียวกันทั้งหน้า  คลิก  ตกลง
8.             คลิก  ตัวเลือก
9.             เลือก  C91149- Business Card
10.      คลิก  ตกลง
11.      ตั้งชื่อป้ายผนึก  Label Card
12.      กำหนดค่า
13.      คลิก  ตกลง
14.      คลิก  เอกสารใหม่
15.      จะได้โครงร่างนามบัตรขนาดมาตรฐานจำนวน  8  ใบ
การจัดทำแผ่นพับ
1.             เมื่อเข้าสู้โปรแกรม  Microsoft Word 2003โดยการคลิกที่  Start>Microsoft Word 2003
2.             คลิกเมนูแฟ้ม >เลือกตั้งค่าหน้ากระดาษ >เลือกแนวนอนคลิก  ตกลง
3.             คลิกเมนูรูปแบบ >เลือกคอลัมน์ >กำหดจำนวนคอลัมน์ตามตัวอย่างหรือตามจำนวนพับข้อมูลที่ต้องการ คลิก  ตกลง
การจัดทำแผ่นป้ายโฆษณา
ตัวอักษรหรือข้อความในแผ่นป้ายโฆษณาเป็นการบรรยายข้อมูลสาระให้รับรู้ดั้งนั้นการกำหนดตัวอักษรจึงควรเน้นในเรื่องของขนาดตัวอักษรรูปแบบตัวอักษรและสีตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร  ตัวอักษรในแผ่นป้ายโฆษราโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ขนาด คือ
1.             ขนาดใหญ่ ใช้สำหรับข้อความพาดหัว
2.             ขนาดกลาง  ใช้สำหรับข้อความพาดหัวรอง
3.             ขนาดเล็ก  ใช้สำหรับข้อความรายละเอียดที่เสนอเนื้อหาสาระ
       การสร้างสรรค์รูปแบบตัวอักษรให้สวยงามแปลกตาและสอดคล้องกับลักษณะข้อความมีความชัดเจนทำให้เกิดความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นเทคนิคการออกแบบตัวอักษรให้สวยงามเป็นส่วนทำให้เกิดแรงบัดดาลใจให้อยากรู้อยากเห็นมากกว่ารูปแบบตัวอักษรธรรมดา
สีของตัวอักษร  กำหนดสีของตัวอักษรเพื่อเน้นข้อความให้ชัดขึ้นสวยงามขึ้นการกำหนดสีอักษรทำได้  3   ประการ  ดังนี้
1.             ค่าน้ำหนักสี สีของตัวอักษรควรมีค่าน้ำหนักที่ตัดกันกับสีพื้นและควรเป็นสีที่แย้งกันกับสีพื้นให้มากที่สุดการตัดกันมากทำให้มีความเด่นชัดของตัวอักษรมากสีที่ไกล้เคียงกันทำให้ความชัดเจนลดลงและอ่านยากขึ้นวิธีการง่ายๆคือใช้วงล้อสีธรรมชาติโดยใช้สีที่อยู่ตรงกันข้ามกันของวงล้อสีก็ช่วยให้ตัวอักษรเด่นชัดขึ้น
2.             สีของตัวอักษรต้องไม่ใช้หลายสีจนเกินไปภายใน 1 แผ่นป้ายโฆษณาข้อความเดียวกันควรใช้สีเดียวกันและไม่ควรใช้สีตัดกันระหว่างสีพื้นกับสีตัวอักษรเพราะทำให้ลายตา
3.             ควรใช้สีที่เหมาะสมกับคำหรือข้อความนั้นๆข้อความที่เน้นความเร่าร้อนตื่นเต้นอาจใช้สีแดง สีส้ม ส่วนข้อความที่แสดงถึงความสงบนิ่ง ความเย็นอาจใช้สีเหลือง สีเขียว สีฟ้าหรือน้ำเงิน
การจัดทำแผ่นปลิว
หลักการออกแบบแผ่นปลิว
ในการออกแบบแผ่นปลิว ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
1.             ความมีเอกภาพ
2.             ความกลมกลืน
3.             ความมีสัดส่วนที่สวยงาม
4.             ความมีสมดุล
5.             ความมีจุดเด่น
องค์ประกอบในการออกแบบแผ่นปลิว
ส่วนประกอบสำคัญที่สร้างสรรค์แผ่นปลิวให้น่าสนใจแบ่งออกเป็น  2  ส่วน  คือ
1.             ตัวอักษรและตัวพิมพ์
2.             ภาพและส่วนประกอบการตกแต่งภาพ
       ตัวอักษรและตัวพิมพ์  เป็นส่วนแจกแจงรายละเอียดของข้อมูลเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอควรจัดรูปแบบและตำแหน่งให้สวยงามมีความชัดเจนซึ่งการออกแบบการเลือกแบบต้องมีลักษณะเด่น อ่านง่าย น่าสนใจ ลักษณะที่แตกต่างกันของตัวอักษรซึ่งถูกกำหนดตามวัตถุประสงค์การใช้งาน โดยแบ่งออกเป็น  2  ส่วน คือ
ส่วนที่  1  เป็นหัวเรื่อง ชื่อสินค้า ชื่อหัวข่าว หรือข้อความที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษส่วนนี้จะเน้นรูปแบบของตัวอักษรมากๆที่สุด
ส่วนที่  2  เป็นส่วนข้อความที่แสดงเนื้อหารายละเอียดต่างๆ
       ภาพและส่วนประกอบการตกแต่งภาพที่ต้องการตกแต่งให้เกิดความสวยงามทำหน้าที่ในการถ่ายทอดจิตนาการออกมาเพื่อใช้ในการนำเสนอแนวคิดให้เป็นรูปธรรมตามความคิดซึ่งวัตถุประสงค์ของการนำภาพมาใช้ประกอบสื่อสิ่งพิมพ์ ได้แก่
1.             เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างงานทำให้ผู้ดูหรือผู้อ่านได้รับความรู้และยอมรับในรูปแบบ  ลักษณะเฉพาะและส่วนประกอบต่างๆของงานนั้น
2.             เพื่อสร้างความสวยงามของงานความคิดสร้างสรรค์ของการออกแบบและการนำเสนอภาพโดยมุ่งเน้นให้ภาพเสนอเนื้อหา
3.             เพื่อดึงดูดความสนใจแก่ผู้พบเห็นและกลุ่มเป้าหมายโดยตรง
4.             ทำให้งานนำเสนอเกิดความง่ายในการจดจำ
5.             เพื่อปิดบังความด้อยคุณภาพของงาน
6.             เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อความหมาย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น